Sitelinks คืออะไร และวิธีการสร้าง

เวลาค้นหา Keyword คำเฉพาะ บน Google อย่างเช่น “ชื่อเว็บไซต์” แล้วเจอ ผลลัพท์อย่างภาพด้านล่างนี้ไหมครับ ?

sitelinks sanook

ในช่องสี่เหลี่ยมสีแดง Google จะเรียกว่า Sitelinks (ไซต์ลิงก์)

ซึ่งตรงนี้มันจะทำให้เวลาการค้นหาของเว็บไซต์เราดูเด่นขึ้น และยิ่งน่ากดเข้าชมมากยิ่งขึ้น

การแสดงผลในส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับทาง Google เลยว่า จะแสดงไซต์ลิงค์ ของเว็บไซต์เราเป็นอย่างไร เราไม่สามารถควบคุมได้เลย … บางเว็บไซต์ก็โชว์ บางเว็บไซต์ก็ไม่โชว์เลย

โดยทาง Google ได้บอกไว้ว่า …

เราจะแสดงไซต์ลิงก์ในผลการค้นหาต่อเมื่อเราคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้เท่านั้น หากโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณไม่อนุญาตให้อัลกอริทึมของเราค้นหาไซต์ลิงก์ที่ดี หรือเราคิดว่าไซต์ลิงก์สำหรับเว็บไซต์ของคุณไม่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ใช้ เราจะไม่แสดงไซต์ลิงก์เหล่านั้น (ที่มา : ไซต์ลิงก์ )

สังเกตประโยคที่สองไหมครับ ? เค้าบอกว่า … หากโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณไม่อนุญาตให้อัลกอริทึมของเราค้นหาไซต์ลิงก์ที่ดี หรือเราคิดว่าไซต์ลิงก์สำหรับเว็บไซต์ของคุณไม่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ใช้ เราจะไม่แสดงไซต์ลิงก์เหล่านั้น

ซึ่งแปลว่า … เราสามารถทำโครงสร้างเว็บ ให้ทางอัลกอริทึมของ Google เข้ามาสร้าง Sitelinks บน Website เราได้นั่นเอง (ถ้าทำถูกต้องตามหลักการ)

จุดประสงค์ของ Sitelinks คือ เพื่อที่จะนำทางให้คนที่จะเข้ามาชมเว็บไซต์ของเรา ไปในที่ต่างๆบนเว็บไซต์ เพราะอย่างบางที เช่นเราค้นหาคำว่า sanook.com แต่จริงๆเราไม่ต้องการเข้าไปใน “หน้าแรก” จริงๆ เราอยากไปหน้า “ตรวจหวย” มากกว่า เป็นต้น

Tip : Maximum ของ Sitelinks ที่จะปรากฏ สูงสุดได้ แค่ 6 sitelinks

ก่อนอื่นไปพูดถึงวิธีการสร้าง Sitelinks เรามาดูความสำคัญของ Sitelinks กันก่อน

สารบัญ Sitelinks

ความสำคัญของ Sitelinks 

1. Sitelinks ช่วยเพิ่มอัตราการคลิ๊กผ่าน หรือ  CTR (click-through rates)

จาก Case study ของ Website ชื่อว่า PPC-Hero ในช่วงที่เว็บไซต์มี Sitelinks ขึ้นมา อัตราการคลิกผ่าน สูงขึ้นกว่า 64% เมื่อเทียบกับช่วงที่ไม่มี Sitelinks

case study PPC-Hero

อีก Case study นึงจากบทความที่ชื่อว่า “อย่าประเมินพลังของ Sitelinks ต่ำไป” เขาได้ทดสอบเช่นเดียวกันว่า เปรียบเทียบผลของ CTR ระหว่างช่วงที่ แสดง Sitelinks กับ ไม่แสดง Sitelinks 

ผลปรากฏว่า ในช่วงที่ไม่แสดง Sitelinks ค่า CTR ลดลงอย่างมีนัยสำคัญกว่า 10%

Google-Sitelinks

2. Sitelinks ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์เรา

ปฏิเสธไม่ได้เลยถ้าหากเวลาค้นหาแล้วเจอ Website ที่มี Sitelinks มันแสดงพื้นที่บน Google มากกว่าเว็บไซต์อื่น สร้างความโดดเด่น และสร้างความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี

3. ช่วยให้ User เข้าถึง หน้าเพจอื่น นอกจาก Home page

Sitelinks จะนำทางให้ User ที่จะเข้ามาเว็บไซต์เรา ไปยังหน้าอื่นๆ ที่เค้าต้องการ ไม่ใช่เฉพาะแต่หน้า Home page เท่านั้น

วิธีการสร้าง Sitelinks 

*** ปกติ Sitelinks จะขึ้นเฉพาะหน้า Home page ของเรา ให้ทำเฉพาะหน้า Home page เท่านั้น ***

1. ใช้ชื่อ Website ที่เป็นเอกลักษณ์

ขั้นแรกของการสร้าง Sitelinks คือ เราต้องมีชื่อเว็บไซต์ที่เป็นเอกลักษณ์ มีลักษณะเฉพาะตัว อย่างเช่นชื่อ แบรนด์สินค้า nike เค้าก็จะใช้ชื่อเว็บไซต์ว่า www.nike.com 

ไม่ใช่ไปตั้งชื่อเว็บไซต์แปลกๆ เช่น ni1222ke.com อย่างงี้ก็ไม่เหมาะสมใช่ไหมล่ะครับ

หรืออย่างเว็บไซต์การลงทุนอย่าง Finnomena เค้าก็ใช้ชื่อเว็บไซต์ที่เป็นชื่อแบรนด์ของเค้าเลย  www.finnomena.com/

อย่าไปตั้งชื่อเว็บไซต์ที่มันเป็นคำทั่วไป เช่น กาแฟ, ต้นไม้, ภูเขา, แตงโม เป็นต้น เพราะคำพวกนี้ เวลาค้นหา Google จะโยงไปในส่วนของข้อมูลทั่วไป และเป็น Keyword ใหญ่ ซึ่งเว็บไซต์เราจะติด Sitelinks ยาก 

2. ทำ Rich Snippets 

เป็นทำให้ Google เข้าใจเว็บไซต์เราง่ายขึ้น ซึ่งวิธีการนี้คือการทำ Rich Snippets อธิบายในส่วนของ Title, URL และ Description ให้ชัดเจน ตรงกับเนื้อหาของหน้า Home page ของเรา

rich snippets

วิธีการทำ Rich Snippets ใน WordPress ที่ง่ายที่สุดคือใช้ Plugin ที่ชื่อว่า Yoast SEO (เป็นปลั๊๊กอินสามัญประจำบ้านของคนทำ SEO)

yoast SEO

ในเวลาที่เราสร้าง Page หรือ Post ขึ้นมา ในส่วนด้านล่างของแต่ละบทความ Yoast SEO จะให้เราแก้ไข ในส่วนของ Tile, URL และ Description ได้ 

หน้าที่ของเราก็คือ ให้ปรับแต่ง หน้า Homepage ของเราให้เหมาะสม

snippet preview

3. ทำโครงสร้างเว็บไซต์ให้เข้าใจง่าย

เราควรมีการจัดแบ่งหมวดหมู่หน้า Page, Post หรือ บทความต่างๆ แยกย่อยให้ชัดเจน เพื่อให้ Google เข้าใจเว็บไซต์เราง่ายขึ้น

site-structure

หน้าหลักของเราคือหน้า Home page จากนั้นค่อยมีหน้าอื่นๆ แตกย่อยออกมา เช่น Category Pages ต่างๆ และใน Category Pages ก็จะมาหน้าย่อย (อาจแยกเป็น Post ใน Category นั้นๆ) ลงมาอีก เหล่านี้ต้องจัดหมวดหมู่ให้ชัดเจน และง่ายต่อการค้นหา การตั้งชื่อก็สำคัญ ชื่อหมวดหมู่ไม่ควรยาวเกินไป ให้กระชับ ชัดเจน (คนละเรื่องกับ ชื่อบทความ ที่ยาวได้)

และที่สำคัญอย่างลืมหน้าเพจพื้นฐาน เช่น หน้าเกี่ยวกับเรา, หน้าติดต่อเรา เป็นต้น พวกนี้ควรมี

4. สร้าง Sitemap

การทำ Sitemap จะช่วยให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์เราง่ายขึ้้น โดยปกติเราจะ Link ตัว Sitemap กับ Google Search Console

sitemaps

ส่วนวิธีการสร้าง Sitemap นั้นค่อนข้างง่าย ลองทำตามลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ

วิธีการทำ Sitemap : https://contentshifu.com/what-is-sitemap/

5. สร้าง Internal Links

การสร้าง Internal links หรือ Inbound link เป็นการสร้างลิงค์ภายในเว็บไซต์ของเราเอง ซึ่งจะเป็นตัวช่วยให้ Google เข้าใจเว็บไซต์เราได้อีกหนึ่งทาง

6. ทำหน้า Home page ให้ติดอันดับ 1

ขั้นตอนนี้สำคัญที่สุด Sitelinks จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หาก Keyword ที่เรา Search ไม่ติด อันดับ 1 โดยปกติหน้า Home page เราจะใช้ชื่อ URL เป็นตัว Keyword อยู่แล้ว ซึ่งต้องอาศัยหลายๆ องค์ประกอบรวมกันที่ว่ามาทั้งหมด ในการขึ้นอันดับ 1 

ปตท

Bonus : One-line sitelinks 

นอกเหนือจาก Sitelinks ปกติแล้ว ทาง Google ยังมี Sitelinks อีกประเภทหนึ่งคือ One-line sitelinks ซึ่งจะเป็น Sitelinks อยู่ใต้ ผลการค้นหาของเว็บไซต์ ดังภาพ

one-line sitelinks

ซึ่งการได้ One-line sitelinks เราต้องทำโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นระบบ หลักสำคัญคือ 

ทำ Link ออกไปหน้าเพจอื่นของเว็บไซต์เรา อย่างเป็นระบบ

จากเว็บไซต์ตัวอย่าง https://www.paiduaykan.com/travel/ที่เที่ยวหัวหิน

เขาได้ แทรก Link ต่างๆ ไว้อย่างเป็นระบบ มาดูกัน

One-line sitelinks example 1

One-line sitelinks example 2

One-line sitelinks example 3

One-line sitelinks example 4

(Link ที่เค้าแทรกนั้นเป็นลักษณะ Inbound link)

การเรียบเรียงเนื้อหาเป็นระบบอย่างงี้ Google จะเข้าใจง่าย สามารถดึง Link ที่ทาง Google คิดว่า เกี่ยวข้องกับเนื้อหา แล้วนำ Link เหล่านั้น มาสร้างเป็น One-line sitelinks เพิ่มให้กับเว็บไซต์เรา

อย่างที่บอกว่า เราไม่สามารถควบคุมได้ว่า จะให้ทาง Google โชว์ลิงค์ไหนบ้าง บางอันก็ขึ้น บางอันก็ไม่ขึ้น ดังนั้นสิ่งที่เราทำให้คือ จัดโครงสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสมที่สุดนั่นเอง

การเรียบเรียงเนื้อหาให้ Google เข้าใจง่ายที่สุด คือ การสร้างสารบัญ

อย่างบทความ สิ่งที่คนทำ SEO ต้องรู้ ของผม จะมีสารบัญที่มี Link เป็นลักษณะ Inbound link ส่งไปยังหัวข้อต่างๆ บนบทความ ซึ่งอย่างงี้ก็จะทำให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเนื้อหาเราได้ดียิ่งขึ้น มีโอกาสสูงที่ Google จะสร้าง one-line sitelinks ให้กับเว็บไซต์เรา

ตัวอย่างสารบัญ

สรุป Sitelinks

การสร้าง Sitelinks ก็คล้ายๆขั้นตอนการทำ SEO มันไม่มีสูตรสำเร็จที่ตายตัว เราไม่สามารถกำหนดเองได้ Google จะเป็นคนสร้างให้เราเอง ทาง Google มีปัจจัยหลายๆอย่างในการพิจารณา สิ่งที่เราทำได้คือวางโครงสร้าง ปรับทุกอย่างให้ดี ให้พร้อมอยู่เสมอ … ย้ำมาตลอดนะครับว่า บางอย่างต้องใช้เวลาในการเติบโต อย่างต้นไม้ก็เช่นเดียวกัน เราไปเร่งในปุ๋ย หรือเร่งรดน้ำมากไป ก็ไม่ได้ช่วยให้ต้นไม้โตภายใน 1-2 วัน ต้องอาศัยระยะเวลา เช่นเดียวกับการทำ SEO มันไม่ได้ทำวันนี้ แล้วจะติดอันดับ 1 พรุ่งนี้ ต้องอาศัยเวลาไต่อันดับขึ้นไป

แหล่งข้อมูลอ้างอิง